เกี่ยวกับเมืองกิฟุ

- เมืองกิฟุ - นครแห่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติใจกลางญี่ปุ่น
- ข้อมูลโดยภาพรวมของเมืองกิฟุ
- อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของกิฟุ
- โอะดะ โนะบุนะงะและเมืองกิฟุ
เมืองกิฟุ - นครแห่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติใจกลางญี่ปุ่น
เมืองกิฟุตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์กลางของญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าเมืองกิฟุจะเป็นเมืองเอกของจังหวัดกิฟุ แต่เมืองนี้ก็รุ่มรวยไปด้วยสภาพแวดล้อมซึ่งมีธรรมชาติที่งดงาม แม่น้ำนะงะระที่ไหลผ่านใจกลางเมืองมีสายน้ำที่ใสสะอาด และภูเขาคิงกะที่เต็มไปด้วยพรรณไม้เขียวชอุ่ม
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังกิฟุได้อย่างง่ายดายทั้งสำหรับผู้ที่ใช้เส้นทางภายในประเทศและสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทั้งนี้สามารถเดินทางไปถึงกิฟุโดยทางรถไฟได้ภายใน 20 นาทีจากนะโงะยะ 1 ชั่วโมงจากท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (CENTRAIR) 2 ชั่วโมงจากโตเกียว และ 1 ชั่วโมงจากโอซาก้า
เมืองกิฟุเป็นเมืองประวัติศาสตร์ซึ่งมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการจับปลาแบบอุไก (การจับปลาด้วยนกกาน้ำ) ในแม่น้ำนะงะระที่ใสสะอาด โดยประเพณีดังกล่าวมีประวัติความเป็นมาร่วม 1,300 ปี นอกจากนี้ เมืองกิฟุยังมีปราสาทกิฟุที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ในตอนกลางของประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับขุนพลไดเมียวที่ชื่อโอะดะ โนะบุนะงะซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 16
เมืองกิฟุยังได้รับเลือกให้เป็นเมืองที่จัดการประชุมนานาชาติในปี ค.ศ.1988 และได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในฐานะเมืองสำหรับการประชุมนานาชาติและการท่องเที่ยวนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ข้อมูลโดยภาพรวมของเมืองกิฟุ
พื้นที่โดยรวม | 203 ตารางกิโลเมตร |
---|---|
จำนวนประชากร | 410,000 คน |
จำนวนครัวเรือน | 180,000 ครัวเรือน |
อุตสาหกรรมหลัก | อุตสาหกรรมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย |
อุตสาหกรรมดั้งเดิม | ร่มญี่ปุ่นแบบกิฟุ โคมกิฟุ พัดกิฟุ |
เมืองพี่น้อง | เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี, เมืองหังโจว ประเทศจีน, เมืองคัมปินาส ประเทศบราซิล, เมืองซินซินแนติ ประเทศสหรัฐอเมริกา, เขตไมด์ลิง กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และนครธันเดอร์เบย์ ประเทศแคนาดา |
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของกิฟุ
เดือน | อุณหภูมิโดยเฉลี่ย (องศาเซลเซียส) |
อุณหภูมิสูงสุด (องศาเซลเซียส) |
อุณหภูมิต่ำสุด (องศาเซลเซียส) |
---|---|---|---|
มกราคม | 4.4 | 8.8 | 0.5 |
กุมภาพันธ์ | 5.1 | 10.0 | 0.9 |
มีนาคม | 8.6 | 13.7 | 3.9 |
เมษายน | 14.4 | 19.8 | 9.3 |
พฤษภาคม | 19.0 | 24.2 | 14.2 |
มิถุนายน | 22.8 | 27.4 | 19.0 |
กรกฎาคม | 26.5 | 31.0 | 23.0 |
สิงหาคม | 28.0 | 33.0 | 24.3 |
กันยายน | 24.1 | 28.8 | 20.4 |
ตุลาคม | 18.1 | 23.1 | 13.8 |
พฤศจิกายน | 12.2 | 17.2 | 7.7 |
ธันวาคม | 6.9 | 11.6 | 2.7 |
- (อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในรอบ 30 ปี ระหว่างปี ค.ศ.1981-2010)
- ※อ้างอิงจากข้อมูลของสถานีอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นกิฟุ
โอะดะ โนะบุนะงะและเมืองกิฟุ

โอะดะ โนะบุนะงะเป็นขุนพลไดเมียวผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในยุคเซงโงะกุ (”ยุคสงครามระหว่างแคว้น”) เขาใช้กิฟุเป็นฐานที่มั่นในการเริ่มต้นรวบรวมญี่ปุ่นให้เป็นเอกภาพจากภาวะความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในยุคสงครามระหว่างแคว้นซึ่งกินระยะเวลาอันยาวนาน เขาได้ขยายแคว้นของตนเองออกไปโดยอาศัยนโยบายแบบใหม่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตลอดจนความสามารถในการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่เยี่ยมยอด ถึงแม้ว่าเขาจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรและทำให้เขาไม่ได้เห็นความฝันของตนเองที่ต้องการให้ญี่ปุ่นเป็นปึกแผ่นสำเร็จเป็นจริงขึ้นมา แต่เขาก็ยังคงเป็นผู้นำซามูไรซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
โนะบุนะงะเกิดในที่ซึ่งปัจจุบันเรียกว่าจังหวัดไอชิ ในวัยเด็ก ไม่มีใครให้ความสำคัญแก่เขา เนื่องจากเขาชอบแต่งตัวประหลาดและมีพฤติกรรมที่หยาบคาย อย่างไรก็ดี เมื่อเติบโตขึ้น เขามีความมุ่งมั่นในการขยายเขตอิทธิพลของตนเองออกไปอย่างต่อเนื่องด้วยความรวดเร็ว
เมื่ออายุ 15 ปี โนะบุนะงะได้สมรสกับโนฮิเมะ บุตรสาวของไซโต โดซัง ซึ่งเป็นผู้ครองปราสาทอินะบะยะมะ (ภายหลังคือปราสาทกิฟุ) ไซโต โดซังเล็งเห็นพรสวรรค์ในตัวของโนะบุนะงะมาตั้งแต่ต้น ถึงแม้ว่าในวัยเด็กโนะบุนะงะจะมีประวัติที่ไม่ดีก็ตาม แต่โดซังก็ได้เขียนพินัยกรรมแสดงความประสงค์เป็นครั้งสุดท้ายว่าจะขอยกเขตอิทธิพลของเขาให้แก่โนะบุนะงะ
โนะบุนะงะได้บุกโจมตีปราสาทอินะบะยะมะ (ภายหลังคือปราสาทกิฟุ) ในปี ค.ศ.1567 เมื่อเขามีอายุได้ 34 ปี เขาได้เปลี่ยนชื่อพื้นที่บริเวณดังกล่าวจาก “อิโนะกุชิ” เป็น “กิฟุ” และเปลี่ยนชื่อป้อมปราการจาก “ปราสาทอินะบะยะมะ” เป็น “ปราสาทกิฟุ” จากฐานที่มั่นในกิฟุของตนเอง โนะบุนะงะได้ตั้งปณิธานที่จะสร้างเมืองรอบปราสาทขึ้นใหม่ และพยายามทำความฝันในการสร้างความเป็นปึกแผ่นของญี่ปุ่นให้สำเร็จเป็นจริงขึ้นมา สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในเมืองรอบปราสาทก็คือตลาด “ระกุอิชิระกุซะ” ที่ซึ่งผู้ค้าสามารถมารวมตัวทำการค้าได้อย่างอิสระ
เมื่อเกิดตลาดในลักษณะดังกล่าวขึ้น ปราสาทกิฟุจึงกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญของภูมิภาคในด้านการค้าและการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
โนะบุนะงะได้สร้างคฤหาสน์ของตนเองในบริเวณที่เป็นสวนกิฟุในปัจจุบัน โดยที่ไพร่พลของเขาตั้งบ้านเรือนของตนเองอยู่ในเมืองรอบปราสาท คฤหาสน์ส่วนตัวอันแสนโอ่อ่าหรูหราของโนะบุนะงะได้รับความชื่นชมเป็นอย่างยิ่งในสมัยนั้น
เมื่อปี ค.ศ.1569 ลูอิส ฟรออิส (Luis Frois) มิชชันนารีชาวโปรตุเกส ได้เดินทางมาเข้าพบโนะบุนะงะเพื่อขออนุญาตทำงานเผยแผ่ศาสนาสำหรับคณะเยสุอิต (Jesuit) ในหนังสือ “ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น” (“Historia de lapam”) ฟรออิสได้เขียนบรรยายว่าเมืองรอบปราสาทกิฟุนั้นคึกคักราวกับนครบาบิโลนแห่งเมโสโปเตเมียในยุคแรก นอกจากนี้ เขายังได้เขียนบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับคฤหาสน์ของโนะบุนะงะ โดยกล่าวถึงสวน การประดับตกแต่งและการจัดห้องหับต่างๆ ฯลฯ อีกด้วย ข้อความที่เขาบรรยายในหนังสือยังคงเป็นแหล่งข้อมูลที่ทรงคุณค่าสำหรับการศึกษาวิจัยทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับยุคสมัยนี้ ทั้งนี้ ในปัจจุบันกำลังมีการดำเนินการขุดค้นและศึกษาวิจัยในพื้นที่สวนกิฟุโดยใช้ข้อมูลจากเอกสารดังกล่าว
โนะบุนะงะใช้ชีวิตอยู่ที่กิฟุเป็นระยะเวลา 9 ปี จนกระทั่งเขาย้ายศูนย์กลางการปกครองไปที่อะซุชิ (จังหวัดชิงะในปัจจุบัน) เมื่อปี ค.ศ.1576
ในช่วงเวลาเดียวกับที่เขาใกล้จะรวบรวมบ้านเมืองเป็นปึกแผ่นตามความฝันของตนเองได้สำเร็จ ในปี ค.ศ.1582 โนะบุนะงะก็ถูกโค่นอำนาจลงโดยอะเกะชิ มิสึฮิเดะซึ่งเป็นขุนพลของตนเองที่ได้ก่อกบฏขึ้นแล้วบังคับให้โนะบุนะงะกระทำอัตวินิบาตกรรมระหว่างเหตุการณ์ที่รู้จักกันในชื่อ “กบฏวัดฮนโน” โอะดะเสียชีวิตเมื่อเขามีอายุได้ 49 ปี
โนะบุนะงะได้วางรากฐานที่สำคัญยิ่งของสิ่งต่างๆ ซึ่งได้พัฒนามาเป็นเมืองกิฟุในที่สุด ความสำเร็จของสิ่งที่เขาได้กระทำนั้นยิ่งใหญ่จนผู้คนในกิฟุต่างรักและศรัทธาโนะบุนะงะเป็นอย่างยิ่ง
ชื่อสถานที่ในบริเวณเมืองกิฟุจำนวนมากมีที่มาจากยุคสมัยของโนะบุนะงะ คุณสามารถเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้และสถานที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโนะบุนะงะได้ทั่วทั้งเมือง